การบริหารจัดการระบบสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารและจัดการระบบสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพนั้น จะทำให้ธุรกิจมีความได้เปรียบคู่แข่งหลายๆ ประการ เช่น
- ระบบสต๊อกสินค้า ลดขนาดการสั่งซื้อและการสั่งผลิตลง
- ระบบสต๊อกสินค้า สำหรับสินค้าที่ทำการจัดซื้อ ให้ทำการสั่งสินค้าถี่ขึ้น นอกจากจะได้สินค้าใหม่แล้ว ยังช่วยลดระบบสต๊อกสินค้าในคลังลงด้วย อีกทั้งให้ทำการบริหารต้นทุนการจัดซื้อ ให้ต่ำลง โดยใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบสารสนเทศ ในการสร้างคำสั่งซื้อ (Purchase Orders: PO) การใช้ระบบ (Electronic Data Interchange: EDI) ในการส่งผ่านข้อมูลราคาสั่งซื้อ (PO) การใช้ระบบแจ้งการขนส่งสินค้าล่วงหน้า (Advance Shipping Notices: ASNs) เพื่อทำการลดต้นทุนการจัดซื้อ ระบบสต๊อกสินค้าก็จะช่วยสามารถ ลดต้นทุนด้านการจัดซื้อ และการรับสินค้าลดลงได้ นอกจากนั้นระบบสต๊อกสินค้ายังจะ สามารถสั่งได้บ่อยขึ้น หรือระบบสต๊อกสินค้าสามารถลดปริมาณสินค้าคงคลังโดยเฉลี่ยได้
- ระบบสต๊อกสินค้า สำหรับสินค้าที่ทำการผลิตนั้น หากต้นทุนการติดตั้ง หรือการเปลี่ยนเครื่องมือ (Change over) มีค่าสูง ควรแก้ไขให้กิจกรรมนี้ให้มีเวลาที่สั้นลงจะสามารถลดระบบสต๊อกสินค้าคงคลังได้ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้
- ระบบสต๊อกสินค้า ลดต้นทุนการเก็บระบบสต๊อกสินค้าคงคลัง (Lower inventory costs)
- ระบบสต๊อกสินค้า เพิ่มการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ โดยการให้เช่าพื้นที่ที่มีอยู่ หรือระบบสต๊อกสินค้าลดการขยายพื้นที่คลังสินค้า โดยใช้เครื่องมือที่สามารถขนย้ายสินค้าในช่องแคบ การใช้ชั้นลอย หรือวิธีการจัดเก็บสินค้าที่เหมาะสมมากขึ้น
- ระบบสต๊อกสินค้า การตั้งระดับปริมาณระบบสต๊อกสินค้าเผื่อขาดให้เหมาะสม
- ระบบสต๊อกสินค้า วางแผนการประกอบ เมื่อเกิดความต้องการ และไม่ต้องการ
6.1 ระบบสต๊อกสินค้า ควรมีการทบทวนแผนการสั่งซื้อ และระบบสต๊อกสินค้าการผลิตตลอดเพื่อทำการสั่งเพิ่ม หรือยกเลิกระบบสต๊อกสินค้าที่ไม่ต้องการ เพื่อให้ระบบสต๊อกสินค้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
6.2 ระบบสต๊อกสินค้า สำหรับสินค้าที่เป็นชิ้นส่วน ที่สามารถนำไปผลิตสินค้าต่อเนื่อง ได้อีกหลายชนิด (Parent products) ระบบสต๊อกสินค้าควรจะทำการเก็บสินค้าคงคลัง ไว้ในรูปแบบของสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (Semi-finished product) เพื่อลดปริมาณระบบสต๊อกสินค้าคงคลังทั้งหมด เนื่องจากระบบสต๊อกสินค้า สามารถลดปริมาณสินค้าคงคลัง ของทุกรายการแต่ละแบบได้
- ระบบสต๊อกสินค้า วิเคราะห์ และคาดการความต้องการของลูกค้า อย่างสม่ำเสมอ
7.1 ระบบสต๊อกสินค้า ควรใช้ประสบการณ์ ควบคู่ไปกับสูตรการคำนวณความต้องการของลูกค้า เพื่อพยากรณ์ ยิ่งแม่นยำ ก็จะทำให้เราวางแผนการสั่งซื้อ และการผลิตได้ถูกต้อง เป็นผลให้ปริมาณระบบสต๊อกสินค้าเป็นไปอย่างเหมาะสมด้วย
7.2 ระบบสต๊อกสินค้า เหตุการณ์บางเหตุการณ์ อาจจะทำให้เกิดความต้องการของสินค้าเพิ่มขึ้น ในเวลาอันรวดเร็ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ทำให้เรา ต้องคำนึงถึงความยืดหยุ่น ในการจัดการปริมาณระบบสต๊อกสินค้าคงคลังมาประกอบด้วย เช่น เทศกาลปีใหม่ที่ทำให้ความต้องการกระเช้าของขวัญมากขึ้นทำให้ต้องมีการวางแผนปริมาณสต๊อกสินค้าคงคลังรองรับเหตุการณ์ดังกล่าว
- ระบบสต๊อกสินค้า สร้างความร่วมมือระหว่างซัพพลายเออร์ในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งจะทำให้สามารถการจัดซื้อสินค้าแต่ละประเภทได้ในปริมาณที่น้อยลง และสั่งได้ถี่ขึ้น จัดการระบบสต๊อกสินค้า ที่ดี จะทำให้การเก็บปริมาณระบบสต๊อกสินค้าคงคลังน้อยลง
- ระบบสต๊อกสินค้า จัดส่งสินค้าต่อไปให้ลูกค้าเมื่อสินค้ามาถึง (Cross-dock customer shipments) สามารถลดความต้องการในการ เก็บสต๊อกสินค้าคงคลัง เนื่องจากระบบสต๊อกสินค้าสามารถนาส่งต่อไปยังลูกค้าได้ทันที โดยไม่ต้องทำการจัดเก็บสินค้า
- ระบบสต๊อกสินค้า การให้ซัพพลายเออร์เป็นผู้บริหารสินค้าคงคลัง (Vendor-Managed Inventory: VMI) การสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสมให้ซัพพลายเออร์ เข้ามารับผิดชอบการบริหารสินค้าคงคลัง เนื่องจากซัพพลายเออร์สามารถทราบปริมาณสต๊อกสินค้าคงคลัง และแผนการผลิตระบบสต๊อกสินค้าของฝ่ายตนเอง และสามารถทราบความต้องการที่แท้จริงของสินค้าพร้อมกับปริมาณระบบสต๊อกสินค้าคงคลังของลูกค้า ส่งผลให้ต้นทุนสต๊อกสินค้าคงคลัง ลดลงทั้งฝ่ายซัพพลายเออร์และลูกค้า
- ระบบสต๊อกสินค้า ลดระยะเวลาในการสั่งซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ หรือระยะเวลาในการขนส่งสินค้า หรือ ระยะเวลาในการรับสินค้า จะส่งผลให้ปริมาณความต้องการในการ เก็บสต๊อกสินค้าคงคลังลดลง นอกจากนี้ระบบสต๊อกสินค้า ลดความไม่แน่นอนของระยะเวลาในการสั่งซื้อก็สามารถลดความต้องการ ของการเก็บสต๊อกสินค้าได้
- ระบบสต๊อกสินค้า เคลื่อนย้ายสินค้าคงคลัง (Transshipment) เมื่อสินค้าคงคลังของสินค้าบางรายการ ณ คลังสินค้าแห่งหนึ่งมีมากเกินไป อย่างไรก็ตามได้มีความ ต้องการสินค้าประเภทเดียวกัน ณ คลังสินค้าอีกที่หนึ่ง ดังนั้นระบบสต๊อกสินค้าในการเกลี่ยปริมาณสินค้าคงคลังจากที่หนึ่ง มาที่หนึ่งที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลดีต่อการบริหารสินค้าคงคลังได้ดี อย่างไรก็ตามต้นทุนในการเคลื่อนย้าย สินค้านี้ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ระบบสต๊อกสินค้าการจัดสินค้า Dead Stock (สินค้าที่ไม่เคลื่อนไหว) และระบบสต๊อกสินค้า Slow Moving (สินค้าที่ถูกขายออกไปช้า) ซึ่งการจัดการลดกลุ่มสินค้าเหล่านี้เป็นการช่วยลดต้นทุนทั้งในคลังสินค้า (Warehousing) การจัดดำเนินการสินค้าในคลัง (Handling) การขนส่ง (Transportation) เช่น สินค้าที่ไม่เคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวช้า ทำให้เปลืองพื้นที่จัดเก็บ และการดูแลระบบสต๊อกสินค้าในคลัง
หากคุณสนใจที่จะมีโปรแกรมสต๊อกสินค้าหรือระบบสต๊อกสินค้า ทางเรามีบริการออกแบบแอพพลิเคชั่น ระบบสต๊อกสินค้า คุณสามารถสอบถามหรือปรึกษาเราได้ โทร.02-046-8597
